Dear 2019 มาต่อ Part 4 กระเป๋าแตกวันแรกสุด

 

Review เคลมกระเป๋าแตก (ต่อ)

 

 

ย้อนรำลึกถึงการไปเที่ยวรัสเซียเมื่อช่วงคริสต์มาสปีที่แล้วด้วยการรีวิวการเคลมกระเป๋าแตก…ที่จริงคือลืม ลืมยาวเลย

 

คิดถึงรัสเซียมากกก แต่ได้ข่าวว่าปีนี้อุ่นที่สุดในรอบกี่ปีไม่รู้เพราะไม่มีหิมะตกที่มอสโกในช่วงคริสต์มาส /โอ้โน่ววว

 

ต่อจากที่รีวิว+ฮาวทูการท่องรัสเซีย รอบนี้ขอโยกย้ายการเคลมกระเป๋ามาไว้ในโพสใหม่เพราะกลัวบล็อกร้าง—ผิด ที่ย้ายมาเพราะข้อมูลน่าจะเยอะ เลยคิดว่าแยกดีกว่า

 

ในโพสนี้จะพูดถึงขั้นตอนการเคลมของเราเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (ไม่รู้ว่าจะมีอัพเดตอีกมั้ย) เป็นการเคลมกับทั้งบริษัทประกันและสายการบิน ซึ่ง…เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเคลมได้ทั้งสองทาง

 

  1. เคลมกับ MSIG

 

เป็นบริษัทที่เราอยากโฆษณาให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะค่าเบี้ยประกันโอเคมาก ที่โอเคยิ่งกว่าให้บริการดีมากกกกก เคลมเร็วมากกกก คิดว่าถ้ามีเที่ยวไหนครั้งหน้าจะใช้บริการอีกแน่นอน

 

ตอนกระเป๋าแตก+จัดการเรื่องที่สนามบินจนกลับมาถึงโรงแรม ตอนนั้นที่ไทยก็เช้าแล้ว อาพี่เลยฝากให้แฟนโทรถาม MSIG ที่ไทยให้ เค้าตอบกลับมาเร็ว เคลียร์ และแนะนำเพิ่มว่าเอกสารที่ส่งให้เค้าเป็นไฟล์ได้เพราะจะได้ใช้เอกสารตัวจริงเคลมกับสายการบินได้ 2 ต่อ (แต่ตอนนั้นคิดว่าเคลมกับสายการบินน่าจะเกินความสามารถเราเลยกะเคลมทางเดียว)

 

พอกลับมาถึงไทย ก็จัดการเตรียมเอกสารและโทรเช็คกับ MSIG อีกรอบเพื่อความชัวร์ ซึ่งเอกสารที่ใช้ทั้งหมดมีตามนี้

  • แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหม (โหลดได้จากเว็บไซด์)
  • หลักฐานการเดินทาง เช่น บัตรขึ้นเครื่องตัวจริง ตั๋วโดยสารเครื่องบิน boarding pass (เฉพาะเที่ยวที่เกิดเรื่อง)
  • หนังสือรับรองจากสายการบิน (เราได้ Commercial Act ใบฟ้ามาก็ใช้ใบนั้นยื่นเลย)
  • Copy passport (เซ็นรับรองสำเนา+ขีดฆ่าใช้เพื่อบลาๆให้เรียบร้อย)
  • รูปถ่ายกระเป๋าที่เสียหาย (เรารวมรูปใส่ไฟล์ pdf เป็นไฟล์เดียว)

 

Blog1

**ตัวแบบฟอร์มมีทั้งหมด 5 หน้า เซ็นส่วนที่ 1 ที่เป็นข้อมูลของเรา กับส่วนที่ 4 คือรายละเอียดกรณีกระเป๋าเสียหาย ระบุวันที่เกิดเหตุ เวลาก็ประมาณเอาได้ สถานที่เกิดเหตุเป็นสนามบินไหน และลงรายละเอียดเหตุการณ์ อย่างของเราจะลงว่ารอรับกระเป๋าที่สนามบินพบว่ากระเป๋ามีรอยแตกและรอยฉีกขาดตลอดแนว ราวๆนี้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเขียนแบบไหนโทรถาม MSIG ได้เลย

 

หลังเตรียมเอกสารทั้งแล้วให้ส่งอีเมลไปที่ Travel_PA_HealthClaims@th.msig-asia.com หรือแฟกซ์: 02-718-1502

 

  • บริษัทจะใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 30 วัน
  • ระยะเวลาการชดใช้ค่าสินไหม 15 วันนับจากเราตกลงข้อเสนอของบริษัท
  • หรือมีการตรวจสอบเพิ่มเติมระยะเวลาจะขยายไปอีกแต่ไม่เกิน 90 วัน

 

เราส่งเมล์วันที่ 8 ม.ค.

วันที่ 10 ได้รับเมล์ตอบกลับเรื่องได้รับเอกสารแล้ว

วันที่ 15 เช็คออกละจ้า

เร็วมากแม่เอ๊ยยยยย รวมระยะเวลาแค่ 7 วันเท่านั้น แล้วยังงี้จะไม่ให้ประทับใจได้อย่างไรกัลลล

 

สรุป MSIG ดีเยี่ยมมาก แนะนำๆ เวลาเดินทางไม่มีปัญหาจะดีที่สุดแหละ แต่พอมีปัญหาแล้วมีบริษัทประกันที่ช่วยเหลือเราดีขนาดนี้มันก็อุ่นใจอ่ะ

 

 

  1. เคลมกับสายการบิน Aeroflot

 

ยอมรับว่าหนักใจกว่ามาก เพราะอย่างแรกเราพลาดการเคลมที่สนามบินมาแล้วเนื่องจากเวลาที่อยู่มูมังน้อยมาก เคลมไม่ทัน พอกลับมาไทยเราก็อยากรู้ว่าถ้าลองพยายามดูจะเคลมได้มั้ย ให้เป็นการชาเลนจ์ตัวเองรับปีใหม่ก็เลยลองดู555

 

**ห้ามลืม** หลังรู้ว่ากระเป๋าแตกให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินเพื่อขอเอกสารยืนยัน/รับรอง และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Aeroflot ที่สนามบินก่อนเพราะต้องให้เค้าดูสภาพเพื่อยืนยันว่ากระเป๋าเรา “ไม่สามารถซ่อมได้”

 

อย่างแรกเลยคือเข้าไปเช็คในเว็บของ Aeroflot https://www.aeroflot.ru/xx-en/information/preparation/baggage/lost

 

จิ้ม feedback form

Blog3

 

เลือกตามรูป

Blog4

 

พยายามใส่ข้อมูลให้ครบ ตรง Specify problem เลือก Baggage is damaged พอมาถึงช่อง text message ให้เขียนบรรยายรายละเอียดการเดินทาง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่าเราติดต่อเจ้าหน้าที่สนามบินและได้รับเอกสารมาเพื่อให้ติดต่อ Aeroflot ที่สำคัญมากคือต้องแจ้งว่าเราได้ให้เจ้าหน้าที่ของ Aeroflot ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่ากระเป๋าของเราไม่สามารถซ่อมได้ และให้เราแจ้งเคลมกระเป๋ากับสายการบิน

Blog5

 

ลงมาด้านล่างจะมีให้แนบไฟล์ ตอนนั้นแนบไปเยอะมาก รูปกระเป๋าทุกรูปที่มี, ใบฟ้า Commercial Act, รูปตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆ ส่งไปให้ดูคร่าวๆก่อนแต่พอถึงเวลาเคลมคืนจริงๆเราต้องส่งเอกสารตัวจริงทั้งหมดไปที่สายการบิน

 

ลำดับการเคลมของเราจะเริ่มหลังถึงไทย เราส่งคำร้องทางเว็บไซด์วันที่ 29 ธ.ค. กลางคืนหลังกลับถึงบ้าน แต่จริงๆอยากแนะนำว่าถ้าเจ้าหน้าที่ Aeroflot ที่รัสเซียยืนยันเรื่องกระเป๋าให้แล้วเราสามารถเข้าเว็บแจ้ง ณ วันนั้นเลยก็ได้ เพราะอ่านเจอว่ามีระยะเวลาการเคลมซึ่งไม่รู้ว่าเราเข้าใจถูกมั้ย

 

7 days from the baggage delivery date for international flights, 6 months from the day following the baggage delivery date for domestic flights.

 

อ่านแล้วมึน เท่ากับว่าหลังกระเป๋าลงเครื่อง ไฟลท์ต่างประเทศมีเวลา 7 วันในการแจ้งเคลม และไฟลท์ภายในประเทศมีเวลา 6 เดือน รึเปล่าไม่แน่ใจ ของเราเป็นไฟลท์ภายในประเทศ แต่ตอนนี้เรากลับมาไทยแล้ว เลยยิ่งงงว่ายังไง แต่เราก็ยังส่งเพราะถ้าคิดว่า 7 วัน กระเป๋าเราแตกวันที่ 23 ส่งคำร้องวันที่ 29 ยังทัน 7 วันอยู่

 

พอส่งคำร้องเสร็จ วันถัดมา (30 ธ.ค.) เราก็ส่งอีเมลไปที่ bagclaims@aeroflot.ru อีกรอบนึง ก็อปข้อความที่ส่งคำร้องมาใส่พร้อมทั้งแนบรูปทั้งหมดให้เลย วันที่ 31 เค้าตอบกลับมาพร้อมกับเลขที่คำร้องที่เราแจ้งในเว็บไว้ จะมีรายละเอียดว่าต้องใช้เอกสารตัวจริงอะไรยื่นบ้าง(ตามโพสก่อน) ซึ่งเยอะมากโคตร อะไรเนี่ยยยย เกือบถอดใจตอนนี้แหละ555 เราเมล์ไปขอที่ติดต่อในไทยก็ได้ข้อมูลมาอย่างที่บอกในโพสก่อน

 

ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่ยากที่สุดในความคิดเรา คือการติดต่อกับ Aeroflot ที่สุวรรณภูมิ……………

 

โทรไปไม่มีใครรับ ในพันทิปก็ไม่มีใครติดต่อได้ เราก็…เอาไงดีว้า หรือถอดใจตรงนี้มั้ย ระหว่างนี้ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนบังเอิญไปเจอคนแนะนำให้ติดต่อการบินไทยเพราะเหมือนเค้าจะดูแลเรื่องกระเป๋าหรืออะไรซักอย่างให้ Aeroflot นี่แหละ เลยพยายามหาเบอร์และติดต่อจนได้ (น้ำตาจะไหล)

 

แต่ที่น้ำตาไหลคือเค้าบอกว่าไม่ได้ดูแลเรื่องกระเป๋าให้ Aeroflot อย่างที่เราเข้าใจ…..ฝ่อตรงนั้นเลยจ้า

 

แต่ๆๆๆๆๆๆ เค้าบอกว่าจะฝากเรื่องไปบอกทางเคาน์เตอร์ Aeroflot ให้ เราก็รีบฝากเบอร์เลย เสียงสวรรค์มากๆ

 

อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่การบินไทยท่านนั้นด้วย ถ้าไม่มีคุณ เราไปต่อไม่ถูกจริงๆ

 

ในที่สุดก็มีคนของ Aeroflot โทรมาจนได้ เป็นเจ้าหน้าที่ lost and found ของสายการบิน ได้คุยรายละเอียดเรื่องการเคลม ข้อสงสัยเรื่องเวลา เอกสารตัวจริงที่ใช้ทั้งหมด สรุปว่าเอกสารที่ใช้มีตามนี้

 

  1. Claim letter with www.aeroflot.ru (เจ้าหน้าที่แนะนำให้เราปรินท์อีเมลที่ส่งไปที่ bagclaims@aeroflot.ru ทุกหน้าที่มีการโต้ตอบกัน)
  2. Property Irregularity Report (PIR form) (เราใช้เอกสารใบฟ้าที่เจ้าหน้าที่สนามบินมูมังออกให้)
  3. Baggage tag + Boarding pass
  4. A copy of your passport confirming that you are the resident of your country.
  5. Receipts confirming your expenses.
  6. Details of your damaged baggage (brand, period of time that the baggage belong to you, picture of the damaged baggage)
  7. มีเพิ่มอีกข้อคือหน้าแรกสมุดบัญชี

 

ข้อ 5 ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นค่าใช้จ่ายพวกค่าห่อกระเป๋าที่ไกด์บอกว่าเคลมได้ สรุปไม่ใช่ เคลมไม่ได้จ้า ข้อนี้น่าจะเป็นใบเสร็จค่ากระเป๋าที่เสียหาย รวมกับข้อมูลในข้อ 6 คือเท่ากับถ้าไม่ได้เก็บใบเสร็จที่ซื้อกระเป๋าไว้ก็จบข่าว

 

แต่!

 

เราเตรียมตัวมาแล้ว เพราะรู้ว่าจะต้องโดนขอแน่ๆเลยถามน้องที่เป็นเจ้าของกระเป๋า มันบอกว่าใบเสร็จทิ้งตั้งแต่วันซื้อแระ……..

 

อย่างน้อยได้ชื่อเพจมาเลย inbox ถามแอดมิน แอดมินก็น่ารักมากช่วยประสานงานให้ เค้าขอข้อมูลพวกขนาดกระเป๋า ขอรูปให้ส่งทางอีเมลแล้วบอกว่าทางบริษัทจะออกเป็นจดหมายยืนยันรายละเอียดสินค้า ราคา และยืนยันว่าจากสภาพกระเป๋า ทางบริษัทไม่สามารถซ่อมได้จริง รอประมาณ 2-3 วันก็ได้รับจดหมาย

 

เมื่อเอกสารทั้งหมดพร้อม เราก็ส่ง EMS ไปที่

Lost and Found Aeroflot Russian airline

ห้องTW6-061 อาคารผู้โดยสาร ชั้น6 สนามบินสุวรรณภูมิ 999 หมู่1หนองปรือ บางพลี สมุทรปราการ 10540

 

แต่ก็มีปัญหาอีกตรงที่ เอกสารโดนตีกลับ5555555 น้ำตาซ่อนในเลข 5 จริง

 

เพราะเคาน์เตอร์สายการบินไม่ได้มีคนอยู่ประจำ เค้าจะลงมาเฉพาะเวลาที่มีเที่ยวบินเท่านั้น ซึ่งหมายความว่านี่เป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยมีใครรับโทรศัพท์เลยเพราะโทรศัพท์อยู่ตรงเคาน์เตอร์ orz

 

สรุปเราขอที่อยู่สำรองเพื่อส่ง EMS รอบสองและเอกสารก็ถึงจนได้ รวมเวลาที่ใช้กับการส่งไปๆกลับๆคือตั้งแต่ 8 ม.ค. – 23 ม.ค. เลย เบาๆ55

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ส่งต่อเอกสารไปที่รัสเซียแล้วแจ้งว่ารอประมาณ 2-3 อาทิตย์ ถึงตอนนี้เราชิลแล้วเพราะถือว่าทำได้ดีที่สุดเกินกว่าที่คาดละ รออีกนิดจะเป็นไร

 

จนวันที่ 15 ก.พ. ทาง Aeroflot ก็โทรมาบอกว่าเรื่องเคลมผ่านแล้ว ให้มาติดต่อที่เคาน์เตอร์ Aeroflot สุวรรณภูมิ–เท่านั้น เราก็เงียบไปนิดนึง55แล้วถามว่าโอนไม่ได้เหรอเพราะให้หน้าสมุดบัญชีไป เค้าบอกว่าเป็นเงื่อนไขของสายการบิน(ประมาณนี้) เราก็โอเคไม่เป็นไรเพราะคิดว่านั่งรถไฟฟ้าไปต่อก็ไม่ยากเท่าไหร่ เลยคุยกันเรื่องเวลา ให้ไปเคาน์เตอร์ไหน แจ้งว่าติดต่อเรื่อง compensation (เคลมกระเป๋า) และใช้สำเนาพาสปอร์ตเพื่อยืนยัน

 

เราไปวันรุ่งขึ้น (16 ก.พ.วันเสาร์พอดี) ไปถึงก็ตรงไปเคาน์เตอร์ที่เจ้าหน้าที่ว่างอยู่ บอกว่าติดต่อเรื่องนี้ไว้ เค้าจะเอาเอกสารมาให้เซ็น แค่นี้ก็เสร็จแล้ว

 

Aeroflot จะคิดตามน้ำหนัก ให้สูงสุดที่ 15 กก. (600 รูเบิลต่อกก.) จ่ายเป็นเงินสดตามอัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น (ไม่ได้จ่ายตามราคากระเป๋านะ)

 

เคลียร์เสร็จกลับบ้าน สบายใจ เป็นชาเลนจ์ที่สำเร็จแบบไม่น่าเชื่อมาก ตอนอาพี่รู้ยังแบบเออ เร็วกว่าที่คิดเนอะ แต่ก็ถามกลับว่าทำไมรีบไปเอาจัง ร้อนเงินเหรอ55555

 

ไม่ใช่ร้อนเงินซักหน่อย55 แค่คิดว่าถ้ามันค้างคาก็จะรู้สึกว่าไม่จบสมบูรณ์จริงๆ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งใดสิ่งนึงครั้งแรกของปีเลย

 

อ่านมาถึงตรงนี้ อยากสรุปว่าถ้ามีเวลาไปที่สุวรรณภูมิโดยตรงอาจจะไม่ยุ่งยากเท่านี้ก็ได้ เพราะตอนนี้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าประมาณ 1 ชม.เอง เคาน์เตอร์ของ Aeroflot (ถ้ายังไม่เปลี่ยน) คือ N20 ประมาณโซนๆนั้น ช่วงเวลา 8-11 โมงค่ะ

 

จบเรื่องนี้อยากขอบคุณหลายคนมาก ตั้งแต่ MSIG, Polo world, เจ้าหน้าที่การบินไทย, เจ้าหน้าที่ Aeroflot ที่สุวรรณภูมิทุกคน, เจ้าของที่อยู่ที่สุวรรณภูมิที่ให้ฝากส่งเอกสาร ไม่คิดว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนมากขนาดนี้จริงๆ

IMG_20190216_104833


Leave a comment